วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2560

ภารกิจพิเศษ

วรรณกรรมอีสาน  เรื่อง ท้าวขูลูนางอั้ว

   จัดทำโดย

   
นายคมสัน   สิงหาวาสน์
ชั้นปีที่ 3 หมู่เรียนที่ 1    รหัสนักศึกษา 57210406128
คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย 


เสนอ
อาจารย์วัชรวร   วงศ์กัณหา
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาวรรณกรรมท้องถิ่น


ภาคเรียนที่ 2   ปีการศึกษา 2559

 มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์




คำนำ
              รายงานวรรณกรรมอีสาน  เรื่องเรื่อง ท้าวขูลูนางอั้ว  ผู้จัดทำได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อในการเรียนการการสอน   ในรายวิชาวรรณกรรมท้องถิ่น  เพื่อให้ผู้ศึกษามีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้น และยังทำให้ผู้ศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์
            ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาหาความรู้ในเรื่องดังกล่าวและผู้อ่านสามารถนำมาประยุกต์ใช้และมีการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม  รายงานฉบับนี้มีเนื้อหาเข้าใจง่าย ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ศึกษาทุกท่านจะได้รับประโยชน์ และความรู้จากการศึกษารายงานเล่มนี้ไม่มากก็น้อยหากมีข้อบกพร่องประการใด ผู้จัดทำก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย           
                                                            นายคมสัน     สิงหาวาสน์
                                                                 ผู้จัดทำ



บทที่ 1
สรุปเนื้อหาวรรณกรรมอีสาน เรื่องท้าวขูลูนางอั้ว
ท้าวพรมสีเป็นกษัตริย์ครองนครกาสี มีมเหสีชื่อนางพิมพากาสี มีโอรสชื่อท้าวขูลู ส่วนท้าวปุตตาลาดเป็นกษัตริย์ครองนครกาย   มีมเหสีชื่อนางจันทา มีธิดาชื่อนางอั้ว  กษัตริย์ทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมน้ำสาบานกันต่างให้สัญญากันว่าจะให้โอรสและธิดาแต่งงานเป็นทองแผ่นเดียวกัน  เมื่อท้าวขูลูเป็นหนุ่มแล้วมารดาจึงแต่งเครื่องบรรณาการให้เพื่อนำไปหมั้นหมายนางอั้ว การพบกันครั้งนี้แม้จะเป็นครั้งแรกท้าวขูลูนางอั้วต่างก็พอใจรักใคร่กันจนลักลอบได้เสียกัน  และต่างทราบว่าจะแต่งงานกันในไม่ช้า ท้าวขูลู จึงลากลับเพื่อเตรียมการแต่งงาน ในช่วงนี้เองขุนลางกษัตริย์ผู้ครองเมืองขอมได้มาหลงรักนางอั้วทั้งๆ ที่ตนเป็นคนแก่แล้ว ได้ส่งของกำนัลมาให้มารดาของนางอั้วบ่อยๆ จนกระทั่งนางพอใจออกปากยกลูกสาวคือนางอั้วให้ นางอั้วไม่ยอมจึงถูกมารดาดุด่าทุบตี ท้าวขูลูได้ทราบข่าวจึงมาทวงสัญญา มารดาของนางอั้วบ่ายเบี่ยงไม่ยอมยกให้แต่งงานกับท้าวขูลู แต่เพื่อไม่ให้เสียสัญญา และเกิดศึกสงคราม นางจึงให้ทำพิธีเสี่ยงทายสายแนน ขุนลางเป็นผู้ชนะ  ท้าวขูลูจึงกลับไปด้วยความเสียใจปานจะสิ้นชีวิต แต่ก็พยายามมาหานางอั้วบ่อยๆ  ส่วนมารดานางอั้วนั้นได้รวบรัดจะให้นางอั้วแต่งงานกับขุนลางโดยเร็ว  นางอั้วหาทางแก้ปัญหาชีวิตไม่ได้จึงผูกคอตาย ก่อนตายได้อธิษฐานขอให้ได้ครองรักกับท้าวขูลูบนสวรรค์   ท้าวขูลูทราบข่าวการตายของนาง จึงฆ่าตัวตายตามไปอีกคน

1. ที่มา

วรรณกรรมอีสาน เรื่องท้าวขูลูนางอั้ว  เป็นวรรณกรรมพื้นบ้านประเภทร้อยกรอง  ซึ่งนักปราชญ์อีสานในสมัยโบราณได้แต่งไว้    แต่ไม่ทราบว่าแต่งขึ้นในสมัยไหน  และใครเป็นผู้แต่ง   เพียงแต่มีการสืบทอดและคัดลอกกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ    

สำหรับต้นฉบับวรรณคดีอีสานเรื่องขูลูนางอั้ว แต่เดิมเป็นตัวธรรม มี 4 ผูก จากนั้น คุณเจือ สืบแก้ว ได้ขอให้พระท่านลอกให้ โดยการจัดทำเป็นหนังสือของวัดน้ำคำแดง ต.เตย อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งการคัดลอกนั้นปรากฏว่าผู้คัดลอกจะอ่านตัวธรรมไม่ค่อยได้ ข้อความบางแห่งจึงผิดพลาดไปจากความจริง จากนั้น ท่าน ดร. ปรีชา พิณทอง จึงได้ชำระหรือปริวรรตใหม่ ซึ่งท่านได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณเจือ สืบแก้ว ที่อนุญาตให้คัดลอกและเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ผู้ศึกษาจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและได้เลือกวิเคราะห์วรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลูนางอั้ว ฉบับของ ท่าน ดร. ปรีชา พิณทอง มาใช้ในการศึกษาครั้งนี้

 

ผู้แต่ง  ไม่ปรากฏ

ผู้เรียบเรียง  ดร. ปรีชา พิณทอง

สำนักพิมพ์  โรงพิมพ์ศิริธรรม

ปีที่พิมพ์  2524



บทที่ 2

วิเคราะห์เนื้อเรื่อง

2. การวิเคราะห์เนื้อเรื่อง

ชื่อเรื่อง 
            ชื่อเรื่อง  ท้าวขูลูนางอั้ว ”  มีที่มาจากชื่อตัวละครเอกของเรื่อง ท้าวคูลู ซึ่งเป็นตัวพระของเรื่อง 
และ  นางอั้ว  ซึ่งเป็นตัวนาง  ที่ปรากฏในตัววรรณกรรมพื้นบ้าน  ซึ่งผู้แต่งเน้นให้เห็นความสำคัญของตัวละครเอกของเรื่อง

      2.1  " วรรณกรรมอีสานท้าวขูลูนางอั้ว "

       - ท้าว (น.) หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ , เจ้าแผ่นดินคำนำหน้าชื่อเจ้าเมืองเช่นท้าวขูลู , ท้าวขุนลาง เป็นต้น (ราชบัณฑิตยสถาน , ๒๕๕๔ : ๕๖๖ )

       - ขูลู  เป็นชื่อเจ้าเมืองแห่งนครกาสี เป็นบุตรของท้าวพรมสี กับนางแก้วเทวี เช่น “ แล้วจิ่งใส่ชื่อน้อยเจ้าอ่อนกุมารโฉมสัณฐ์คือ ดั่งอินทร์ลงแต้มชื่อวาขูลูน่อย " (ปรีชา พิณทอง , 2524 : 2)

       - นาง (น.) เป็นคำประกอบหน้าคำเพื่อแสดงว่าเป็นเพศหญิง เช่น 

นางอั้ว (ราชบัณฑิตยสถาน , ๒๕๕๔ :๖๑๙ )

       - อั้ว เป็นชื่อของลูกสาวเมืองกายนคร เป็นบุตรของท้าวปุตตาลาด กับนาจันทา  เช่น “แล้วจิ่งหานามใท้กุมารีเป็นชื่ออั้วเคี่ยมน้อยงามย้อยดั่งเขียน” (ปรีชา พิณทอง , 2524 : 8)

        ดังนั้น นิทานเรื่อง “ ท้าวขูลูนางอั้ว” จึงมาจากชื่อของตัวละครเอกของเรื่อง  คือ ตัวพระ และ ตัวนางของเรื่อง ที่ปรากฏไว้ในตัวบท ดังที่ได้ยกตัวอย่างไปข้างต้น เพราะผู้แต่งต้องการเน้นย้ำให้ผู้อ่านเห็นความสำคัญและมองเห็นถึงลักษณะพิเศษของตัวละครเอกทั้ง 2 ตัว



3. โครงเรื่อง

 

แก่นเรื่อง
ที่ใดมีรัก  ที่นั้นจะไม่มีทุกข์  ถ้าหากเราเปิดใจฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

โครงเรื่อง
เปิดเรื่อง  โดยการกล่าวถึงบ้านเมืองและการปกครองของเมืองกาสี  และ เมืองกายนคร  ซึ่งเป็นบ้านพี่เมืองน้อง  ผูกมิตรไมตรีต่อกัน 

การดำเนินเรื่อง
  ๑. นางอั้วนั้นมีรูปโฉมที่งดงามเลื่องลื่อไปไปไกลยังหัวเมืองต่างๆ
 ๒. ขูลูเห็นนางอั้วแล้วหลงรัก  จึงได้ตามนางมาที่ปราสาท  ทั้งสองพลอดรักกัน  และได้เสียกัน
 ๓. ขูลูเดินทางกลับบ้านเมืองของตนเพื่อให้พระมารดามาสู่ขอนางอั้วให้แก่ตน
 ๔. ขุนลางเข้ามาเป็นมือที่สามระหว่างความรักของท้าวขูลูกับนางอั้ว
  ๕. นางอั้วถูกนางจันทราบังคับให้แต่งงานกับขุนลาง เพราะว่าขุนลางส่งเครื่องราชบริพานมาเป็นจำนวน        มาก
 ๖. เมื่อนางจันทราทำผิดสัญญา  นางแก้วเทวีจึงแค้นใจมาก  จึงได้คิดที่จะทำสงครามเพื่อที่จะชิงตัวนางอั้วมาให้กับขูลูผู้เป็นบุตรชายของตน
 ๗. ท้าวขูลูกลับไปหานางอั้วและท้าทำสงคราม ถ้าหากนางอั้วต้องตกเป็นเมียของขุนลาง 
 ๘. นางอั้วเกิดคาวมทุกข์ใจมาก  จึงตัดสินใจผูกคอตาย ใต้ต้นจวงจันทน์ ในป่าอาถรรพ์ 
  ๙. เมื่อนางจันทาทราบข่าวว่านางอั้วตาย ก็รู้สึกผิดและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
 ๑๐. หลังจากนั้นนางจันทาก็ได้ส่งสาร  ไปยังเมืองกาสีนคร เพื่อแจ้งให้ขูลูมาร่วมในพิธีงานศพของนางอั้ว
  ๑๑. เมื่อท้าวขูลูทราบข่าวเรื่องว่านางอั้วตาย   จึงตัดสินใจใช้พระขรรค์เชือดคอตนเองตายตามนางอั้วไปในที่สุด

ปิดเรื่อง
          ปิดเรื่องด้วยการคลายปมเหตุการณ์ที่ได้เคยทะเลาะกันของทั้งสองเมือง   หลังจากนั้นทั้งสองเมืองก็ได้กลับมารักใคร่และมีไมตรีต่อกันเหมือนเดิม



4. ตัวละคร บุคลิกของแต่ละตัว

 

                  1) ขูลู  เป็นผู้ชายที่มีรูปร่างหน้าตาดี มีเสน่ห์ ราวกับเทพบุตรเทวดา เป็นผู้มีใจรักเดียว และซื่อสัตย์ในความรัก ยอมตายตามคนที่รักได้อย่างกล้าหาญ ดังปรากฏในเนื้อเรื่องดังนี้

             2) นางอั้ว  เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม  อรชอนอ้อนแอ้น  ผิวพรรณเปล่งปลั่งสวยงาม เป็นที่หมายปองของชายต่างเมือง มีนิสัยหยิ่งทระนง เชื่อมั่นในความรัก  รักใครรักจริง รักเดียวใจเดียว และเป็นหญิงสาวที่มีความกล้าหาญยอมเสียสละชีวิตเพื่อให้ปัญหาทุกอย่างจบลง ดังปรากฏในเนื้อเรื่อง ดังต่อไปนี้

                3)  ขุนลาง  เป็นชายมีอายุ ร่ำรวยเงินทอง ช่างเอาอกเอาใจ และหลงรักนางอั้วถึงขั้นสละทุกอย่างแทนได้

 4)  นางจันทา  เป็นพระมารดาของนางอั้ว มีลักษณะนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้น  หลงระเริงในทรัพย์สิน  ไม่ยอมฟังเหตุผลของลูก ดังปรากฏตัวย่างในเนื้อหา ดังนี้

               5)  นางแก้วเทวี  เป็นพระมารดาของท้าวขูลู มีนิสัยตระหนี่ขี้เหนียว  เป็นผู้เชื่อมั่นในสัจจะสัญญา  รักษาคำพูดของตนเอง


5. การใช้ภาษา

     ภาษาถิ่นที่มักใช้เป็นภาษาถิ่น 2 ลักษณะ คือ
1) เขียนให้มีเลียงใกล้เคียงกับภาษาถิ่น
2) ใช้คำศัพท์ที่ใช้ในท้องถิ่นหรืออยู่ในชีวิตประจำวัน มีทั้งคำนาม สรรพนาม คำกิริยา คำวิเศษณ์ และคำเชื่อม คำภาษาถิ่นจะเป็นเครื่องบ่งชี้ให้ทราบว่าวรรณกรรมที่พบเป็นวรรณกรรมของถิ่นใด ปกติภาษาถิ่นต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน 2 ระดับ คือ ระดับหน่วยเสียงและระดับคำความแตกต่างในระดับโครงสร้างประโยคมีน้อยมาก



บทที่ 3
ความโดดเด่นของเนื้อหา

1. ความโดดเด่น
            วรรณกรรมอีสานเรื่อง ท้าวขูลูนางอั้ว เป็นวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมาก โดยเฉพาะความโดดเด่นทางด้านเนื้อหา เพราะเป็นเรื่องโศกนาฏกรรมรักที่ผิดหวัง หากดูผิวเผินอาจจะมองว่า เรื่อง ขูลูนางอั้ว เป็นเรื่องของคนสิ้นคิด แต่ถ้าวิเคราะห์เนื้อเรื่องอย่างละเอียดเเล้ว จะทราบว่าเนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องราวความรักที่แสนจะเจ็บปวดเกินพรรณนา เป็นความเสียสละและความกล้าหาญของผู้หญิงคนหนึ่งที่สามารถปริดชีพตัวเองได้เพียงเพราะคำว่า "รัก" คำเดียว และเรื่องราวทั้งหมดจึงกลายเป็นที่มาของคำว่า "ขูลู นางอั้ว ตำนานรักอมตะของภาคอีสาน" ที่ถูกสืบทอดเล่าขานกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

7. ฉากและสถานที่
7.1 ฉากหลัก
- ต้นจวงจันทน์  เป็นต้นไม้สำคัญที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ซึ่งจะมีอยู่ 2 ต้น ต้นแรกเป็นของพระอินทร์ปลูก นางอั้วจึงฆ่าตัวตายใต้ต้นนี้ไม่ได้ ส่วนต้นที่สองเป็นต้นไม้ที่พวกผีพลายปลูก นางอั้วจึงขออ้อนวอนให้ต้นจวงจันทน์โน้มกิ่งลงมา จากนั้นนางจึงฆ่าตัวตายได้สำเร็จ  ซึ่งลักษณะของต้นจวงจันทน์ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง มีดังตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่างต้นจวงจันทน์ที่พระอินทร์ปลูก
บ่มีพัดป่าไม้                       คนิงน้อยหน่อเมือง
อันหนึ่งพระอาทิตย์ย้าย   พ้นเขตเขาทอง
ดูตระการบด                      จวงหอมอินทร์ปลูก
นางจิ่งหักดอกไม้              เทียมพริอมคู่กัน

ตัวอย่างต้นจวงจันทน์ที่ผีพลายปลูก
นางบ่มีนานแท้                 ไปเถิงเฮวฮีบ
เถิงที่ไม้                            จวงดั้วยอดยาว
ที่นั้นมีพลานกว้าง            สวนเพียงเฮียงฮาบ
เคมฝั่งน้ำ                          วังกว้างส่องใส
นางแพงน้าว                     มาลาเฮวฮีบ
เทียนคู่พร้อม                    ยกไหว้กล่าวกลอน


- สวนอุทยาน  เป็นที่พักของนางอั้วซึ่งพระบิดาของนางอั้วเป็นผู้สร้างให้ก่อนจะสิ้นใจ สวนอุทยานแห่งนี้อุดมไปด้วยความสวยงามของพืชพรรณนานาชนิด ดังปรากฏในตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่าง
พระก็จำเขาสร้าง          อุทยานสวนดอก
สัพพะสิ่งไม้                   ในหั้นดอกบาน
มีทังสระใหญ่กว้าง       ดวงดอกบูชา
บัวคำบาน                      แบ่งกอสะพังกว้าง


7.2 ฉากรอง
- เมืองกาสี  เป็นบ้านเมืองของท้าวขูลูซึ่งขึ้นปกครองบ้านเมืองแทนพระบิดาที่สิ้นชีพไป ซึ่งเมืองกาสีนั้น ถือว่าเป็นเมมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านข้าวปลาอาหารนานาชนิด
- เมืองกายนคร  เป็นบ้านเมืองของอั้ว ซึ่งนางได้อยู่กับพระมารดาตามลำพังเพราะพระบิดาได้สิ้นชีพจากไป





บทที่ 4
การนำไปประยุกต์ใช้

8. การนำไปประยุกต์ใช้
8.1 การพัฒนาต่อยอดเป็นหมอลำ
- ลำพื้น  นิทานเรื่องขูลูนางอั้ว   (ตอน ขูลู)
- หมอลำเรื่อง ขูลูนางอั้ว คณะอีสานอินคอนเสิร์ต



หมอลำเรื่อง ขูลูนางอั้ว คณะระเบียบวาทะศิลป์

- หมอลำเรื่อง ขูลูนางอั้ว คณะขวัญใจกาฬสินธุ์

8.2 การสร้างบทละครเรื่อง ขูลู-นางอั้ว โดยใช้ขนบละครพันทาง

8.3   คณะสรภัญญะ เรื่องขูลูนางอั้ว บ.โคกนิยม ต.วังชมภู อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ


8.4  ละครเวทีประเพณีภาษาไทยมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์  เรื่อง อั้วเคียม
Infographic : วรรณกรรมอีสานท้าวขูลูนางอั้ว



นายคมสัน    สิงหาวาสน์   ชั้นปีที่  3    หมู่ที่  สาขาวิชาภาษาไทย    รหัส 57210406128


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น